มติมหาเถรสมาคม ครั้งที่ 14/2563 ยกวัดสนธิ์(นาสน) จากวัดร้าง บัดนี้ ได้กลายเป็นวัดที่ถูกต้องสมบูรณ์เรียบร้อยแล้ว

#วัดสนธิ์(นาสน) จากวัดร้าง บัดนี้ ได้กลายเป็นวัดที่ถูกต้องสมบูรณ์เรียบร้อยแล้ว

โดยมีมติมหาเถรสมาคม ครั้งที่ 14/2563

เมื่อวันที่ 30 มิถุนายน 2563 ที่ผ่านมา

เริ่มต้นจาก วันที่ 8 มกราคม 2543 ผู้ใหญ่ “ญา” ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 4 ได้นำรถไถ่มาไถ่หญ้าให้มีทางเข้าวัดไปสร้างที่อยู่อาศัยชั่วคราว ตอนยังเป็นป่ารกร้าง สามเณรวัดสระเรียงได้เคย ไปถางหญ้า เอาปิ่นโตไปฉันเพล นำโดยพระอาจารย์อธิการประหยัด และ พระอาจารย์พระเยาว์ มีสามเณรรุ่นแรกดังนี้

1.สามเณรย้อย ( วิทยา บุญกิจ )

2.สามเณรงูเหลือม ( โกศล )

3.สามเณรปังพอน ( วุฒิชัย วุฒกร)

4.สามเณรสงกรานต์ ( สงกรานต์ โถทอง )

5.สามเณรธรรมรัตน์

และมีพัฒนาการที่ดีมาโดยตลอด จนถึงปัจจุบัน คือ 2563 ซึ่งมีนางสาวปุญญาดา จงละเอียด ได้เป็นผู้ขออนุญาต ยกวัด และมี พระใบฏีกามาณพ ปิยธมฺโม เป็นผู้ดูแลเรื่องเอกสาร จนได้รับการยกวัดสนธิ์(นาสน) ขึ้นเป็น วัดที่มีภิกษุจำพรรษา ดังที่กล่าวมาแล้วข้างต้น

ดังนี้

1. ดร. พระครูวินัยธรสุริยา สุริโย

2. ดร. พระสาโรจน์ ธมฺมสโร

3. พระมหาศักดิ์ดา

4. พระธีรวัฒน์

5. พระณัฐพงษ์

6. พระบุญฤทธิ์

7. พระไกรศร

8. พระดิสรณ์

9. พระมหาจรูญศักดิ์

วัดสนธิ์(นาสน)เป็นวัดที่มีประวัติศาสตร์เคียงคู่กับพระมหาธาตุเจดีย์เมืองนครศรีธรรมราช

อีกทั้งยังเป็นวัดที่ได้รับการสถาปนามาจากพระเจ้าศรีธรรมาโศกราช

วัดสนธิ์(นาสน) นับเป็นวัดเก่าแก่และสำคัญควบคู่กับวัดท่าเรือ ได้รับการสถาปนามาจากพระเจ้าศรีธรรมาโศกราช เมื่อครั้งสร้างพระมหาธาตุเจดีย์ทรงศรีวิชัยยุคแรก หรือเมื่อคราวสร้างเมืองพระเวียงเป็นเมืองหลวงที่สองของอาณาจักรตามพรลิงค์ บนหาดทรายแก้วในระหว่าง พ.ศ. 1089-1300 วัดสนธิ์(นาสน)อยู่ติดกับวัดเตาปูน ซึ่งเดิมเป็นที่ตั้งเตาเผาเปลือกหอยเพื่อทำปูนขาวผสมยางไม้และข้าวเหนียว สำหรับก่อ สร้างพระธาตุเจดีย์ สันนิษฐานว่า พระเจ้าศรีธรรมาโศกราชคงเสด็จมาตรวจเตาปูน และทรงเห็นว่าเป็นสถานที่ที่สงบวิเวกเหมาะแก่การบำเพ็ญเพียรภาวนาของพระสงฆ์ ฝ่ายอรัญวาสี ครั้นเมื่อสร้างพระธาตุเจดีย์แล้วเสร็จ จึงได้สถาปนาที่ตั้งเตาปูนเป็น “วัดเตาปูน” และที่ประทับชั่วคราวเมื่อเสด็จมาตรวจดูเตาปูนเป็น “วัดสนธิ์(นาสน)” จากนั้นโปรดฯ ให้สร้างพระพิมพ์บรรจุกรุไว้เพื่อสืบทอดอายุพระศาสนาที่วัดสนธิ์(นาสน)ด้วย ต่อมาในตำนานเก่าแก่ ได้เล่าว่า ขณะที่วัดสนธิ์(นาสน)ยังมีความรุ่งเรือง สมเด็จเจ้าพะโคะหรือหลวงพ่อทวด เป็นที่รู้จักของชาวไทยทุกภูมิภาคในฐานะพระศักดิ์สิทธิ์ที่มีอิทธิปาฏิหาริย์และอภิญญาแก่กล้าจนได้สมญาว่า “หลวงพ่อทวดเหยียบน้ำทะเลจืด” ได้เคยเดินธุดงค์ ปักกลดปฏิบัติธรรมในบริเวณวัดสนธิ์(นาสน) ในสมัยที่ท่านได้บวชเรียนวิชาจาก วัดเสมาเมือง จ.นครศรีธรรมราช รวมถึงความเชื่อของคนพื้นที่ ที่เชื่อว่าดวงจิตของไอ้ไข่เด็กวัดเจดีย์นี้คือดวงจิตคู่บุญบารมีขององค์หลวงปู่ทวด

ต่อมาวัดสนธิ์(นาสน)ได้กลายเป็นวัดร้างมานานจึงไม่มีโบราณสถานใดๆ ปรากฏให้เห็น จะมีก็แต่เพียงซากอิฐโบราณกระจัดกระจายอยู่ทั่วไป ในอดีตวัดสนธิ์(นาสน)เป็นแหล่งกำเนิดของพระกรุเลื่องชื่อศิลปศรีวิชัยสามแบบพิมพ์ คือพิมพ์วงเขน พิมพ์ซุ้มกระรอกกระแตและพิมพ์ยอดขุนพลใบพุทรา นับเป็นพระกรุยอดนิยมหนึ่งในสุดยอดพระกรุไตรภาคีของจังหวัดนครศรีธรรมราชที่มีชื่อเสียงและมีค่านิยมระดับหลักแสน คือ พระกรุวัดท่าเรือ พระกรุวัดนางตรา พระกรุวัดสนธิ์(นาสน)

พุทธศักราช ๒๕๔๓ พระอธิการประหยัด วุธปญฺโญ เจ้าอาวาสวัดสระเรียง เจ้าคณะตำบลคลัง ได้เล็งเห็นถึงความสำคัญอันเป็นประวัติศาสตร์ของวัดนาสน จึงได้มอบหมายให้ พระอาจารย์พะเยาว์ กัลยาโณ มาเป็นรักษาการณ์เจ้าอาวาส เพื่อบูรณะพัฒนาวัดนาสน ต่อมาก็ได้กลายเป็นวัดร้างอีกครั้ง

พุทธศักราช ๒๕๕๗ พระครูพรหมเขตคณารักษ์ เจ้าอาวาสวัดสระเรียง เจ้าคณะอำเภอพระพรหม ซึ่งได้รับมอบหมายจาก พระครูปริยัติคุณาศัย วัดประดู่พัฒนาราม เจ้าคณะอำเภอเมืองนครศรีธรรมราช ให้มาดูแลวัดสนธิ์(นาสน) เพื่อให้สถานที่นี้กลายเป็นสถานที่ปฏิบัติธรรมของพระภิกษุสามเณรและบุคคลทั่วไป จนกระทั้ง เมื่อวันที่ ๓๐ เดือนกรกฎาคม พุทธศักราช ๒๕๕๘ พระครูพรหมเขตคณารักษ์ ได้นิมนต์พระครูวินัยธรสุริยา สุริโย มาจากวัดธาตุน้อย(เจดีย์พ่อท่านคล้าย วาจาสิทธิ์) พร้อมทั้งคณะพระภิกษุและสามเณรจำนวน ๙รูป ให้มาจำพรรษา ณ วัดสนธิ์(นาสน) และได้กลายเป็นวัดที่ถูกต้องสมบูรณ์เรียบร้อยแล้ว

โดยมีมติมหาเถรสมาคม ครั้งที่ 14/2563

เมื่อวันที่ 30 มิถุนายน 2563 ที่ผ่านมา

พระครูวินัยธรสุริยา สุริโย

วัดสนธิ์(นาสน) จ.นครศรีธรรมราช

โทร. 061-526-2919